สำดับการปกครองหลังเปลี่ยนเป็นวัดธรรมยุต
ในปีที่มีการเปลี่ยนแปลงเป็นวัดธรรมยุต ได้นิมนต์ พระสมุห์เฉย วัดเขมาภิรตาราม มาปกครองเป็นเจ้าอาวาส จนมรณภาพ พระปลัดเรือง ซึ่งเป็นพระลูกวัด วัดอาวุธฯ ก็ได้รับหน้าที่เป็นเจ้าอาวาสปกครองอยู่ประมาณ ๑๕ ปี ก็มรณภาพ
ต่อมาวันที่ ๖ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๘๓ สมเด็จพระวชิรญาณวงศ์ วัดบวรนิเวศวิหาร ได้แต่งตั้งให้ พระครูสังรักษ์สงวน โฆสโก (สีตะลายันต์) วัดสัมพันธวงศ์ กทม. เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาส และต่อมาท่าน ก็ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดอาวุธวิกสิตาราม (ภายหลังท่านมีสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระสิทธิสารโสภณ เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๑๑) เป็นพระราชาคณะองค์แรกของวัดอาวุธฯ ท่านเป็นเจ้าอาวาสปกครอง ตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๘๓ - พ.ศ.๒๕๑๗ เป็นเวลารวม ๓๕ ปี ท่านก็มรณภาพ
สมเด็จพระญาณสังวร (เจริญ สุวฑฺฒนมหาเถร) วัดบวรนิเวศวิหาร ได้ตั้งให้พระมหาสุเทพ ฐิโตภาโส ซึ่งเป็นพระลูกวัดรักษาการแทนเจ้าอาวาส อยู่เป็นเวลา ๑ ปีเศษ ก็พ้นจากตำแหน่ง
ปี พ.ศ.๒๕๑๘ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (วาสน์ วาสนมหาเถร) วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ได้ทรงแต่งตั้งให้ พระอริยคุณาภรณ์ (สุบิน เขมิโย ป.ธ.๙) วัดเครือวัลย์วรวิหาร มาเป็นเจ้าอาวาสปกครองสืบต่อมา เป็นเวลา ๑๑ เดือน ก็ย้ายกลับไปรักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดเครือวัลย์ฯ เนื่องจากเจ้าอาวาสวัดเครือวัลย์ฯได้มรณภาพลง (ต่อมาท่านได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดเครือวัลย์ฯและได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็น พระราชา คณะชั้นราชที่ พระราชปัญญากวีเลื่อนเป็นพระราชาคณะชั้นเทพที่ พระเทพสารเวที ในปี ๒๕๓๕)
ต่อมา วันที่ ๒๘ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๑๙ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (วาสน์ วาสนมหาเถร) วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม จึงได้ทรงประทานแต่งตั้ง พระอมราภิรักขิต (จันทร์ จนฺโท ป.ธ. ๖) วัดเทพศิรินทราวาส อายุ ๖๒ ปี พรรษา ๔๒ มาเป็นเจ้าอาวาสปกครองวัดอาวุธวิกสิตาราม นับตั้งแต่เปลี่ยนเป็นวัดในสังกัด “ธรรมยุต” และเปลี่ยนชื่อเป็นวัดอาวุธวิกสิตาราม ตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๔๑-๒๕๓๖ มีเจ้าอาวาสปกครองวัดมาแล้ว ๗ รูป ดังนี้
- ๑. พระสมุห์เฉย
- ๒. พระอาจารย์ปิ๋ว
- ๓. พระปลัดเรือง
- ๔. พระครูสังฆรักษ์ สงวน โฆสโก (ภายหลังเลื่อนเป็นพระสิทธิสารโสภณ)
- ๕. พระมหาสุเทพ ฐิโตภาโส
- ๖. พระอริยคุณาภรณ์ (สุบิน ป.ธ. ๙ พระเทพสารเวที ในปัจจุบัน)
- ๗. พระอมราภิรักขิต (จันทร์ จนฺโท ป.ธ. ๖)
พระอมราภิรักขิต (จันทร์ จนฺโท) หลังจากได้รับแต่งตั้งให้มาปกครองเป็นเจ้าอาวาสวัดอาวุธวิกสิตาราม ท่านก็ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ ตามลำดับ คือ
- - ๕ ธันวาคม ๒๕๒๑ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะ ชั้นราชที่พระราชมุนี
- - ๕ ธันวาคม ๒๕๓๓ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะ ชั้นเทพที่พระเทพเมธากร
นับตั้งแต่ท่านได้มาปกครองวัดอาวุธวิกสิตาราม เมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๙ ท่านก็ได้เริ่มบูรณปฏิสังขรณ์เสนาสนะต่อจากที่ยังค้างอยู่ เช่น พ.ศ.๒๕๑๙ ท่านก็ได้เริ่มบูรณปฏิสังขรณ์เสนาสนะต่อจากที่ยังค้างอยู่ เช่น พ.ศ.๒๕๑๙ เป็นประธานกรรมการก่อสร้างศาลาบำเพ็ญกุศล ๑ หลัง พ.ศ.๒๕๒๐ เป็นประธานกรรมการก่อสร้างฌาปนสถาน (เมรุ) ลักษณะทรงไทยประยุกต์ก่ออิฐถือปูน สิ้นค่าก่อสร้างเป็นเงิน ๙๙๐,๐๐๐ บาท ดำเนินการก่อสร้างกำแพงรอบวัด สร้างศาลาการเปรียญกุฏิสงฆ์ปรับพื้นที่บริเวณวัด จัดหาดินทรายมาถมพื้นที่บริเวณวัดเพื่อยกระดับพื้นดินให้สูงขึ้นร่วม ๒ เมตร เพื่อให้พ้นจากสภาพน้ำท่วมขัง ได้ดำเนินการก่อสร้างอุโบสถใหม่ (ซึ่งได้ประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์โดย สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (จวน อุฏฐายี) สมเด็จพระสังฆราช วัดมกุฎกษัตริยาราม สมัยยังดำรงสมณศักดิ์เป็น สมเด็จพระมหาวีรวงศ์) ที่ยังค้างอยู่จนแล้วเสร็จสิ้นค่าก่อสร้างประมาณ ๑๔,๖๗๔,๔๐๐ บาท สร้างหอสมุดสงฆ์เป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ๓ ชั้น ทำป้ายวัด สร้างซุ้มประตูกำแพงแก้วรอบอุโบสถใหม่ สร้างห้องน้ำ ห้องเวจกุฏิ เป็นต้น
ในการสร้างอุโบสถหลังใหม่นี้ ได้รับความร่วมมือจากข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนทุกฝ่ายเป็นอย่างดี พลเอกชวลิต - คุณหญิงพันธุ์เครือ ยงใจยุทธ ได้เป็นสมาชิกในการก่อสร้างอุโบสถจนเสร็จแล้ว ในปี พ.ศ.๒๕๒๗ ท่านได้สร้างศาลาการเปรียญถวายวัด ๑ หลัง ชื่อ “ศาลาอรพิน” เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ นางอรพิน นววงศ์ (ยงใจยุทธ) บุตรีที่เสียชีวิตไปแล้ว และได้ให้ความอุปถัมภ์แก่วัดอาวุธวิกสิตารามมาโดยตลอด
ในด้านการพัฒนาวัดอาวุธวิกสิตารามนั้น ทางวัดได้รับความอุปถัมภ์ทรายถมที่ภายในวัดทั้งหมดจาก บริษัท พรหมสุวรรณธุรกิจ จำกัด คุณเล็ก - คุณหญิงสุวรรณี สิงห์สมบุญ (พัวไพโรจน์) พร้อมทั้งให้ความอุปถัมภ์วัดอาวุธวิกสิตารามด้วยดีตลอดมา